วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560



   ตัวอย่างการแต่งคำประพันธ์ 

จินดามณีฉบับพระนิพนธ์กรมหลวงวงษาธิราชสนิท

         ข้อผูกตำนาน    ตำเนอรอรรถการ    ตำนานเกลากลอน
         เป็นบทย่อมผูก    เป็นครูอักษร    เป็นโคลงกาพย์กลอน    ฟัดบทต้นปลาย
         อักขระเป็นหมู่    สอสามเป็นคู่    ไม้ม้วนไม้มลาย
         ไม้เอกไม้โท    เป็นคู่หมู่หมาย    ปรฏิหารประกาย    ฝนทองฟองมัน
         สิถิลธนิด    กาพย์กลอนฟัดติด    ชิดรัดเกี่ยวพันธ์  
         คิดควรจงแม่น    อย่าได้เสรวดสรัน    อยาเอาอื่นยรร    มาใส่ใช่การ
         หมู่ใดในคณะ    เป็นคู่อย่าละ    กาพย์โคลงพากย์หาร
         บทฉันท์ใดฉงน    สืบถามอย่านาน    จู่ลู่ใช่การ    ลิกขิตเกี้ยวพันธ์
         หนึ่งสันตดิลก    คู่ฉันท์โตฎก    กาพย์มังกรพันธ์
         บทอินทรวิเชียร    คู่อาริยฉันท์    ผูกไว้ทุกสรรพ    ทุกพรรณเกี้ยวการณ์

ตัวอย่างการแต่งกาพย์กลอน

          ผิจนิพนธโคลงกาพย์ก็ดี โคลงกำกาน โคลงนิราศโคลงสังวาษ โคลงลันโลง โคลงห้า จทำโสลก พาลนมัศบุราณทำนุกทำเนียมกลอนลิลิต ฉันทพากย คิตยราคสมเด็จ สุรางคประวัล ให้ประกอบศัพท์ คือ ราชาศัพท์ นารีศัพท์ จงรู้อิถีลึงค์ บุรุษลึงค์ นะปุงสะกะลึงค์

ตัวอย่างโคลงจินดามณี

          ประวัติผู้แต่งโคลงจินดามณีเขียนขึ้นเมื่อ พ.ศ.2392 ซึ่งเป็นปีระกา เอกศก แต่ในโคลงจินดามณีบอกวันเดือนปีไว้ว่า

จวบจุลศักราชถ้วน           ฟันอุไภย ร้อยฤา
อีกเจ็ดระกาศกไสมย        ลุแล้ว
วิสามาศดฤถีไตร              กาฬปักษ์ ปางพ่อ

วารพุฒมกุฎกรุงแก้ว        โอษฐเอื้อนโองการ

ตอนลงท้ายทรงย้ำบอกเวลานิพนธ์เสร็จอีกว่า

พันสองร้อยเจ็ดอ้าง          จุลศัก-ราชเอย
ระกาขวบเอกศกนัก-        ษัตรแคล้ว
เดือนอ้ายฝ่ายสุกรปักษ์     ศุกร์ค่ำ หนึ่งนา
สฤษดิลักษณ์อักษรแล้ว    เล่มสร้างสืบสอง


          ตามโคลงพันสองร้อยเอ็ด หรือพันอุไภยร้อยอีกเอ็ด ก็คือปี พ.ศ. 2382 ซึ่งตกปีกุน พระชนม์เพียง 31 พรรษาเท่านั้น ดูไม่สมกับข้อความที่กล่าวไว้ในหนังสือว่าด้วยมูลเหตุอันทำให้ต้องทรงนิพนธ์หนังสือเล่มนี้


ผู้แต่ง กรมหลวงวงษาธิราชสนิท

          ลักษณะการแต่ง เป็นโคลงสี่สุภาพนำ 33 บท กาพย์สุรางคนางค์ 5 บท แล้วเอาคำในกาพย์สุรางคนางค์มาทำเป็นโคลงกระทู้รวม 35 บท สุดท้ายเป็นโคลงสี่สุภาพ 6 บท

          ความมุ่งหมาย เพื่อให้เป็นบทเรียนเฉพาะทางการร้อยกรองโคลง และเพื่อเป็นการสอนจริยาวัตร อันควรแก่พระราชโอรสทุกองค์ไปในเวลาเดียวกัน

         โคลงจินดามณี เป็นบทเรียนสอนให้รู้จักปฏิบัติตน ถ้าผู้ใดทำได้โดยสมบูรณ์ก็เท่ากับมี แก้วจินดาของพระมหาจักรพรรดิ์อยู่ในมือ

        โคลงจินดามณี ยังเพื่อให้เป็นเครื่องเฉลิมพระเกียรติกษัตริย์ ดังโคลงที่ว่า

ปวงเป็นประโยชน์ทั่วพื้น    ปถพี ดลเอย
เฉลิมพระเกียรติกษัตรี         เกริ่นหล้า
ปราชญ์สดับใดบดี              เชิญตก เติมแฮ
คงอยู่คู่ดินฟ้า                      อย่ารู้เสื่อมไขษย

เนื้อความ

        ขึ้นต้นยอเกียรติกษัตริย์ ชมกรุงรัตนโกสินทร์ ปราสาทราชวังที่งดงามสง่าราวกับทิพยวิมาน จึงกล่าวถึงพระราชปรารภของรัชกาลที่ 3 ว่า ใคร่จะให้พระราชโอรสมีความรู้ทางภาษาไทยให้แตกฉาน สามารถแต่งกาพย์กลอนได้จนบทสุดท้ายบอกชื่อผู้แต่ง แต่กรมหลวงวงษาธิราชสนิท แปลกกว่าของผู้อื่นที่ทรงบอกนามพระอาจารย์ลงไปด้วยว่า

ตนตูผู้ศิษย์แจ้ง              เจนอรรถ
กรมนุชิตชิโนรสวัจ      นาดถ์ชี้
ฉบับแบบแนบบลชัด    เชลงหลาก หลายฤา
ทั่วถ่องลบองกลกี้         รอบรู้ครูกลอน

ข้อความสำคัญ

ชมเมือง
ปราสาทสูงเทริดฟ้า           ฟูโพยม
จรูญรัตน์จำรัสโสม           สุกแพร้ว
พ่างไพชยนต์ประโลม       จิตรโลกย์ เล็งเฮย
สิงหาศน์มาศกอบแก้ว       ก่องหล้าหลากสวรรค์

พรรณนาความมั่งคั่ง

สมบูรณ์สมบัติอ้าง           ไอศวรรย์ อินทร์เอย
ร้อยโอษฐฤารำพรรณ       พร่ำถ้วน
สิบสองพระคลังอนันต์     อเนกราช ทรัพย์แฮ
สิบสิ่งศฤงคารล้วน           เลิศพื้นแผ่นภู

ขอพร

ขอพรกมเลศเจ้า                 จอมพรหม
ให้พระหน่อขัติยนิยม        อย่าลี้
พากเพียรเล่าเรียนสม        ดังพระ ประสงค์
วางพระทัยใช่ชี้                ชอบด้วยโดยกระแส

ขอพรไกลาศท้าว            ทรงตรี ศูลเอย
ผดุงดัดดวงดรุณี              หน่อไท้
กตัญญกตเวที                  ไทธิราช ราพ่อ
จงประพฤติพระทัยให้     เที่ยงแท้ทางธรรม

ตัวอย่างโคลงกระทู้

เร่ง เรียนเร่งรอบรู้                        กฎหมาย
ตริ ตรึกสุภาษิตหลาย                  ฉบับพร้อง
ตรอง ประดิษฐ์พระร่วงภิปราย   เปรยเปรียบ สอนนา
คำ บุตรอินทร์สอนน้อง              นึกไว้อย่าเผลอ

อย่า นิยมยศซ้อง                    สรรเสริญ
ประจบ ท่านเทียวเที่ยวเดิน    ดั่งบ้า
อย่า เสือกอย่าสูงเกิน             สุดกู่
ประแจง ประจบเหลือหน้า    เลือกน้ำใจตรง

อย่าฉ้อหลวง ล่วงล้วง         ลักบัง
ให้ขาด ราชทรัพย์คลัง        ท่านไท้
อย่าฉ้อราช ราษฎร์หวัง      ประโยชน์ ตนแฮ
ให้ขุ่น ข้นจนได้                 ยากแค้นขายตัว

คุณค่าของโคลง


๑. กวีและนักเลงกลอนถือกันว่า โคลงจินดามณีของกรมหลวงวงษาธิราชสนิท ดี ควรยกย่องเสมอด้วยวรรณคดีเรื่องอื่นๆ เพราะใช้คำแต่งประณีต ทั้งความหมายเด่นชัด ได้ทั้งเสียงสัมผัสอันไพเราะและเก็บความได้มาก

๒. ให้ความรู้อื่นๆ นอกเหนือจากคติธรรมคำสอน เช่นเรื่องการสร้างพระพุทธรูป ถวายพระนามว่า พระพุทธยอดฟ้าฯ และพระพุทธเลิศหล้าฯ เรื่องสิบสองท้องพระคลังที่นับวันจะมีคนรู้จักน้อยเต็มที

๓. เป็นบทเรียนภาษาไทยของพระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 3 ตลอดมา คู่กับจินดามณีแบบสอนอ่านของพระโหราธิบดีและกวีทั้งหลาย ยังยกย่องไว้ว่า เป็นแบบเรียนที่มีคุณค่าทางวรรณคดีอยู่ไม่น้อย ควรถือเอา เป็นแบบอย่างการประพันธ์โคลงสี่สุภาพและโคลง
หนังสือ วรรณคดีสมัยอยุธยาจินดามณีนับว่าเป็นแบบเรียนเล่มแรกของไทย


      

วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2560



ประวัติหนังสือจินดามณี

            หนังสือเรียนของคนไทยที่ปรากฎว่ามีใช้ในสมัยก่อนเท่าที่ปรากฎหลักฐานก็จะมีเรื่อง จินดามณี หรือ จินดามุณี อันแปลว่า แก้ววิเศษ แต่งโดยพระมหาราชครูกวีในสมัยสมเด็จ พระนารายณ์มหาราช ซึ่งหนังสือเรื่องจินดามณีนี้นับเป็นหนังสือเรียนเล่มแรกที่ใช้กันอยู่ในสมัยนั้น เนื้อหาภายในเป็นประเภท ร่าย ฉันท์ และร้อยกรองประเภทต่างๆ แบบแผนการเรียนในสมัยก่อนค่อนข้างยุ่งยาก เนื่องจากจะเน้นหนักไปในทางด้านกวีโดยเฉพาะ จึงมีผู้สันนิษฐานว่าอาจมีแบบเรียนเป็นคู่มือใช้อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ปรากฏหลักฐาน

            หนังสือจินดามณีเป็นหนังสือที่มีมาแต่สมัยอยุธยา แต่ชื่อของหนังสือก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็น "จินดามณี" หรือ "จินดามุนี" กล่าวกันว่า จินดามณีเป็นชื่อหนังสือเรื่องหนึ่งซึ่งมีอยู่ก่อน ส่วนจินดามุนีเป็นชื่อของหนังสืออีกเรื่องหนึ่ง หรืออาจกลับกันก็ได้ แต่ชื่อที่น่าจะถูกต้องที่สุดคือชื่อ จินดามณี เพราะเป็นชื่อของแก้วสารพัตรนึกอย่างหนึ่ง กล่าวกันว่าหากผู้ใดมีอยู่ในครอบครองนึกสิ่งใดจะได้สมหวังในสิ่งนั้น ดังนั้นหนังสือเล่มนี้อาจจะสื่อความหมายในเชิงว่า หากผู้ใดได้เรียนหนังสือเล่มนี้ก็จะรู้แตกฉานในอักษรศาสตร์ของไทยเสมือนได้มีแก้วสารพัดนึกอยู่ในมือ
หน้าต่อไป    กรมศิลปากร จินดามณี เล่ม ๑-๒ บันทึกเรื่องจินดามณี และ จินดามณี ฉบับสมเด็จพรเจ้าบรมโกศ หน้า ๑๓๓.
          จากหลักฐานต่างๆ พบว่าจินดามณีเล่ม๑ แต่งขึ้นในรัชกาลที่ ๓ โดยมีการอ้างถึงในหนังสือ ปฐม ก กา หัดอ่านใจความว่า "ถ้าใครใคร่รู้ ให้ดูสารา เพียรยลค้นหา จินดามะณี" ส่วนหนังสือจินดามณี เล่ม ๒ เป็นของกรมหลวงวงษาฯ แต่งขึ้นปลายรัชกาลที่ ๓ เนื้อหาอ้างถึงจินดามณีฉบับเก่าว่า "สสามไม้ม้วนไม้มลาย แถลงลักษณ์ธิบาย ไว้แจ้งในจินดาามณี" (๒) หนังสือจินดามณีนั้นมีด้วยกันสี่ประเภท ได้แก่ จินดามณีฉบับความแปลก จินดามณีฉบับความพ้อง จินดามณีฉบับพระนิพนธ์กรมหลวงวงษาธิราชสนิท และ จินดามณีฉบับหมอบรัดเลรวบรวม

จินดามณีฉบับความแปลก

        มีสองเล่ม เก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ การขึ้นต้นเหมือนกันทั้งสองฉบับแต่ที่ว่าเป็นฉบับความแปลกและมีความแตกต่างจากฉบับอื่นๆ

จินดามณีฉบับความพ้อง

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

        มีอยู่ด้วยกันหลายเล่ม เหมือนกันบ้าง แตกต่างกันบ้างแต่ไม่มาก หากจะจัดจำแนกแยกเป็นจำพวกจะได้ ๔ 
จำพวก ได้แก่ หน้าก่อน หน้าต่อไป  กรมศิลปากร จินดามณี เล่ม ๑-๒ บันทึกเรื่องจินดามณี และ จินดามณี ฉบับสมเด็จพรเจ้าบรมโกศ หน้า ๑๓๙.
          - ฉบับลายมือเขียน เก่าที่สุด ลักษณะเป็นสมุดไทยดำ เส้นรง
          - ฉบับนายมหาใจภักดิ์ มีอยู่ด้วยกัน ๒ เล่ม เป็นสมุดไทยดำหน้าต้นชุบเส้นทองเส้นหนึ่ง ต่อไปเขียนด้วยเส้นรง มีชุบเส้นทองบ้างเป็นบางแห่ง ส่วนอีกเล่มหนึ่งนั้นจะเป็นเส้นรงตลอดเล่ม
         - ฉบับพระยาธิเบศ มีการขึ้นต้นด้วยร่ายที่คำแปลกแตกต่างจากเล่มอื่น
         - ฉบับความสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส มี ๒ เล่มสมุดไทยดำ


จินดามณีฉบับพระนิพนธ์กรมหลวงวงษาธิราชสนิท

                เป็นหนังสือที่ต้นฉบับมีจบบริบูรณ์แต่เฉพาะที่พิมพ์รวมอยู่ในตอนท้ายหนังสือจินดามณี ฉบับพิมพ์ของหมอสมิธ บางคอแหลม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๓ ได้คัดมาทำเป็นต้นฉบับลงพิมพ์ไว้ในเล่มนี้เป็นเล่มที่ ๒ ขึ้นต้นด้วยฉันท์วสันตดิลก แล้วต่อไปแจกลูกรวมทั้งอักษรกล้ำในแม่ ก กา, กก, กง, กด, กน, กบ, กม และ เกอย และผันอักษรกลางทุกตัวด้วยไม้เอก โท ตรี จัตวา(๕ เสียง) ผันอักษรสูงด้วยเอก โท (๓ เสียง) และอักษรต่ำด้วยเสียงเอก โท (๓ เสียง) รวมทั้งอักษรควบกล้ำทุกแม่ รวมทั้งอักษรต่ำที่มี ห และ อ นำ จินดามณีฉบับนี้ เลียนแบบมาจากจินดามณีฉบับความพ้องที่เป็นของเก่า แต่ว่าได้มีการแก้ไขให้กระทัดรัดขึ้น อีกทั้งยังปรับปรุงให้อ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย การแต่งจินดามณีเล่มนี้แต่งขึ้นเมื่อสมัยที่กรมหลวงวงษาธิราชสนิทยังดำรงยศเป็นกรมหมื่น ทรงนิพนธ์จินดามณีเล่ม ๒ นี้ขึ้น จินดามณีฉบับนี้เป็นฉบับที่หมอสมิธได้นำไปพิมพ์ และบางตอนของหนังสือก็ได้มีการคัดลอกไปลงหนังสือเล่มอื่นนั่นคือหนังสือของหมอบรัดเลโดยตอนที่นำไปเป็นตอนที่อธิบายถึงวิธีแต่งโคลง กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทรงเป็นกวีที่เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงพระองค์หนึ่ง รวมทั้งได้ทรงแต่งหนังสือไว้หลายเรื่อง ทรงเป็นลูกศิษย์ของสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส หน้าก่อน หน้าต่อไป กรมศิลปากร จินดามณี เล่ม ๑-๒ บันทึกเรื่องจินดามณี และ จินดามณี ฉบับสมเด็จพรเจ้าบรมโกศ หน้า ๑๔๘-๑๕๐.

จินดามณีฉบับหมอบรัดเล
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

        เป็นฉบับที่มีการพิมพ์รวบรวมเรื่องไว้หลายๆเรื่องในเล่มเดียวกัน อันได้แก่ ประถม ก กา แจกลูก จินดามณี ประถมมาลา และ ปทานุกรม และยังมีการแทรกเรื่องและคำอธิบายต่างๆเพิ่มเติมลงไป เช่น คำควบกล้ำ การแบ่งอักษรออกเป็น ๕ จำพวก คำราชาศัพท์ ศัพท์กำพูชา คำชวา และโคลงบทต่างๆ ในจารึกวัดพระเชตุพน และต่อมาโรงพิมพ์พานิชศุภผลเป็นผู้พิมพ์ออกจำหน่าย
                จินดามณีนั้นเป็นหนังสือแบบเรียนภาษาไทยที่ใช้กันในสมัยอยุธยา โดยในสมัยนั้นยังไม่มีการพิมพ์เกิดขึ้น ดังนั้นผู้ที่ใคร่ศึกษาหาวิชาใส่ตัวจำเป็นต้องคัดลอกไว้ โดยสมุดที่ใช้คัดลอกนั้นก็จะเป็นสมุดที่ทำจากส่วนของพืชนำมาผ่านขั้นตอนทำเป็นสมุดใช้กัน หรือที่เรียกว่าสมุดไทย การคัดลอกนั้นก็จะคัดลอกจากต้นฉบับจากนั้นก็ตกทอดต่อๆ กันมา เมื่อนานเข้าตัวอักษรจึงเริ่มลางเลือน อีกทั้งหนังสือก็เกิดชำรุดเสียหาย ผู้ที่เป็นเจ้าของหนังสือ บางครั้งก็อาจเขียนเรื่องอื่นเพิ่มเติมลงไปตามแต่ใจ หากสมุดขาด ก็อาจจะมีการประติดประต่อผิดๆ ถูกๆ ไปตามเรื่อง ดังนั้นความแตกต่างของหนังสือจึงมีมากบ้างน้อยบ้าง อันเป็นธรรมดาของหนังสือ ที่ใช้เป็นแบบเรียน อันจะนับรวมถึงหนังสืออื่นๆ ที่ใช้กันเป็นประจำ เช่น หนังสือสวมมนต์ และตำรา ภาษาบาลีต่างๆ หนังสือจินดามณีนั้นใช้เป็นแบบเรียนมานาน เลิกใช้เมื่อพระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย อาจารยางกูร) ได้แต่งหนังสือมูลบทบรรพกิจเป็นแบบเรียนหลวงสมัยรัชกาลที่ ๕ ขึ้น หน้าก่อน กรมศิลปากร จินดามณี เล่ม ๑-๒ บันทึกเรื่องจินดามณี และ จินดามณี ฉบับสมเด็จพรเจ้าบรมโกศ หน้า ๑๔๘-๑๕๐.











หนังสือจินดามณี แบบเรียนเล่มแรกของไทย


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ จินดามณี
         
 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ชาวตะวันตกได้เริ่มเข้ามาค้าขายกับกรุงศรีอยุธยา ชาวตะวันตกบางกลุ่มได้มีเจตนาที่จะนำพระคริสต์ธรรมเข้ามาเผยแพร่ในประชาคมอยุธยาด้วย

          พวกบาทหลวงได้รับการสนับสนุนจากราชสำนักสำคัญ ๆ ในยุโรปให้มาเผยแพร่คริสต์ศาสนาและได้มีการจัดตั้งสำนักสอนพระคริสต์ธรรมและค่อยพัฒนามาเป็นโรงเรียน คือ เริ่มสอนพระคริสต์ธรรมแก่เยาวชนไทยควบคู่กับการสอนภาษาต่างประเทศและภาษาไทยแก่เยาวชนไทยคณะบาทหลวงได้รับสิทธิเสรีในการจัดการสอนอย่างมากในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ (พ.ศ. ๒๑๙๙-๒๒๑๓)


         ถึงแม้ว่าเราจะไม่ทราบรายละเอียดในการจัดการเรียนการสอนในสมัยนั้นก็ตาม แต่ก็พออนุมานได้ว่า เด็กไทยจำนวนไม่น้อยที่สามารถเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศส จนสามารถใช้การได้อย่างดีและสามารถที่จะไปศึกษาเล่าเรียนที่ประเทศฝรั่งเศสได้ดังปรากฏหลักฐานในจดหมายราชทูตสมัยสมเด็จพระนารายณ์ที่มีพระยาโกษาธิบดีเป็นหัวหน้าคณะ ได้กล่าวฝากฝังนักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ที่กรุงปารีสซึ่งได้ไปศึกษาพร้อมกับคณะราชทูตไทยในครั้งนั้น


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ จินดามณี

           การที่สำนักหมอสอนศาสนาเริ่มมีบทบาทในการเรียนการสอนหนังสือมากขึ้นจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการปรับปรุงการเรียน การสอนภาษาไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์อยู่ไม่น้อยดังที่พยายามจัดทำแบบเรียนให้เป็นมาตรฐานเพื่อใช้ในการสอนหนังสือแก่เยาวชนไทย พระโหราธิบดีจึงได้แต่งแบบเรียนชื่อ จินดามณีนับว่าเป็นแบบเรียนเล่มแรกของไทย

        หนังสือแบบเรียนจินดามณีเล่มนี้คงใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยต่อ ๆ มาในสำนักราชบัณฑิตและสำนักเล่าเรียนวัดจนได้ศึกษาเล่าเรียนกันอย่างกว้างขวางหนังสือจินดามณี เป็นหนังสือแบบเรียนเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยพระโหราธิบดี กวีในสมัยพระนารายณ์มหาราช ได้เรียบเรียงไว้เป็นหนังสือตำราเรียนหนังสือไทยเนื้อหาของหนังสือว่าด้วย ระเบียบของภาษา สอนอักขรวิธีเบื้องต้นพร้อมอธิบายวิธีแต่งกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์

            จินดามณีถูกใช้เป็นตำราเรียนจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ก่อนที่จะมีการปฏิรูปการศึกษาในสมัย ร.๕ จินดามณีมีหลายฉบับ เช่น ฉบับโหราธิบดี ฉบับพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงวงษาธิราชสนิท ฉบับพระเจ้าบรมโกศ ฉบับหมอบรัดเล เป็นต้น

          จินดามณี ฉบับหมอบรัดเล เป็นหนังสือแบบเรียนที่ดร.แดน บีช บรัดเล มิชชันนารีชาวอเมริกันผู้ที่มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงเทคนิคการพิมพ์ของไทย จัดพิมพ์เมื่อปี ๒๔๒๒ โดยคัดสรรมาจากตำราเรียนเก่าหลายเรื่อง และสอดแทรกเนื้อหาสำคัญที่เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยมาไว้ในเล่มเดียวกัน เช่น ประถม ก กา ว่าด้วยการใช้และสะกดตัวอักษร จินดามนี ว่าด้วยการประพันธ์โคลง เช่น โคลงสุภาพ ประถมมาลา เป็นตำราสั่งสอนวิชาหนังสือภาษาไทยให้ถูกต้องตามแบบจินดามณีปทานุกรม เป็นส่วนราชาศัพท์ ได้เพิ่มศัพท์กัมพูชาศัพท์ชวา เป็นต้น

หนังสือประถมจินดามณี

ประถมจินดามณี เล่ม ๑

      หนังสือประถมจินดามณี เล่ม 1 ก็คือ จินดามณีฉบับพระโหราธิบดีที่แต่งในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยอยุธยาตอนปลายนั่นเอง ประถมจินดามณี เล่ม ๑ ยังคงใช้เป็นหนังสือแบบเรียนที่สำคัญของสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ จินดามณี เล่ม 1

ประถมจินดามณี เล่ม ๒


         พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทรงแต่งหนังสือประถมจินดามณี เล่ม ๒ ขึ้น เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงมีพระราชปรารภให้แต่งเพื่อใช้สอนพระราชโอรส และหมู่ข้าราชบริพารรวมเวลาตั้งแต่ทรงพระราชปรารภ จนทรงนิพนธ์เสร็จ ราว ๖ เดือนเศษ (ธนิต อยู่โพธิ์ ๒๕๐๒,๑๒๔) กรมหลวงวงษาธิราชสนิททรงอธิบายว่า เป็นการแต่งซ้อนจินดามณีของเก่า จึงเติมชื่อให้เป็น จินดามณี เล่ม ๒ลักษณะการแต่ง การแต่งใช้ทั้งฉันท์ กาพย์ ร่ายและโคลง มีความเรียงอธิบายเป็นร้อยแก้ว
สาระสำคัญ เนื้อหาแบ่งออกเป็น 2 ตอน

             ๑. กฎเกณฑ์ทางอักขรวิธี กล่าวถึงสระ พยัญชนะ ไตรยางค์ การแจกลูกทุกตัว อักษร ทุกแม่ตัวสะกด และแจกอักษรกล้ำ แล้วผันวรรณยุกต์ตามอักษรทั้ง ๓ หมู่ การใช้เครื่องหมาย การแผลงอักษร

             ๒. การแต่งร้อยกรอง ขึ้นต้นด้วยร่ายสุภาพ แล้วอธิบายหลักการแต่งร้อยกรอง

วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2560

                                                         
คุณค่าในด้านต่าง ๆ

 ๑ .คุณค่าด้านสังคม

                ๑. จินดามณีเป็นแบบเรียนเล่มแรก   และเป็นแบบอย่างให้นักปราชญ์สมัยต่อมาเขียนแบบเรียนภาษาไทยขึ้น
                ๒. สมเด็จพระนารายณ์จึงโปรดฯ   ให้มีการแต่งหนังสือภาษาไทยขึ้นเพื่อสั่งสอนให้เด็กไทยรักชาติและศาสนาของตนเอง           
๓.แต่งเพื่อเป็นแบบเรียนสำหรับให้เหล่ากุลบุตรกุลธิดาสนใจเล่าเรียนภาษาไทย  โดยจะสั่งสอนสอดแทรกไว้ในหนังสือ   ให้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการศึกษา (ตามที่ยกตัวอย่างไว้ข้างต้น  ในหัวข้อจุดประสงค์ของการประพันธ์)
        ๔.ได้ทราบว่าในสมัยอยุธยาได้มีการติดต่อค้าขายกับชาติตะวันตก โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส  ซึ่งมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุเกี่ยวกับชาติตะวันตกที่มีการเปิดโรงเรียนสอนศาสนาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
        ๕.มีการนำคริสต์ศาสนามาเผยแผ่  โดยเริ่มจากการจัดตั้งสำนักสอนพระคริสต์ธรรมและค่อยพัฒนามาเป็นโรงเรียน   คือ เริ่มสอนพระคริสต์ธรรมแก่เยาวชน  ควบคู่กับการสอนภาษาต่างประเทศ
        ๖.ประชาชนมีอิสระในการประกอบอาชีพ   และนับถือศาสนา

    ๒. คุณค่าด้านเนื้อหาสาระ

                  ๑. จินดามณีเป็นแบบเรียนเล่มแรกไทย   ประพันธ์โดยพระโหราธิบดี  เป็นแบบเรียนที่มีคุณค่ามาก      โดยเนื้อหาสามารถแบ่งได้เป็นสองเรื่องใหญ่ ๆ  ได้แก่อักษรศาสตร์และวรรณคดีหากผู้ใดได้ศึกษาแบบเรียนเล่มนี้ก็จะได้รับความเข้าใจ  และความรู้ที่แตกฉานด้านภาษาไทยในระดับหนึ่ง

                ๒. เป็นหนังสือที่ใช้สำหรับอ้างอิงที่ดีที่สุด และใช้ในการศึกษาเปรียบเทียบหลักเกณฑ์การใช้ภาษาไทยโบราณกับยุคปัจจุบัน

                ๒.๑  ด้านอักษรศาสตร์

                ๒.๑.๑ได้ทราบว่าลักษณะรูปของคำในอดีตแตกต่างกันกับปัจจุบัน  แต่ความหมายยังคงเดิม
                     ๒.๑.๒ได้ทราบว่าลักษณะรูปของคำในอดีตแตกับปัจจุบันมีการเขียนที่เหมือนกัน
                ๒.๑.๓ได้ทราบว่าในสมัยที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงครองราชย์สมบัติ    และก่อนหน้ารัชกาลของพระองค์ยังไม่มีเครื่องหมายบางอย่างใช้
  ๑.รูปวรรณยุกต์ ตรี  และจัตวา   เพราะในสมัยนั้นมีเพียงแค่รูปวรรณยุกต์เอก (พินทุเอก/ไม้ค้อนหางหัว)  และรูปวรรณยุกต์โท (พินทุโท)  เพียงเท่านั้น

   ๒.ไม่มีรูปการันต์ใช้   เช่น พระโพธิสัตว์   พระอินทร์  แตรสังข์

                ๒.๑.๔ได้ทราบว่าคำไทยที่ใช้ไม้ม้วน  มี  ๒๐  คำมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช   หรืออาจจะมีใช้กันก่อนหน้านั้น
๒.๑.๕ได้ทราบว่ามีการจำแนกออกเป็น  ๓   หมู่    ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช   หรืออาจะเป็นก่อนหน้านั้น      จินดามณี (๒๕๕๑:๒๒)ได้มีการประพันธ์ไว้ว่า
จำแนกอักษรเป็น  ๓  หมู่
                ๒.๑.๖ได้ทราบว่ามีการแจกลูก   คือการนะอักษรมาประสมกับสระเพื่อให้เกิดพยางค์สำหรับใช้ในการออกเสียง  เช่น  ก  กา   กิ   กี   กึ   กุ   กู   เก   แก   ไก   ใก   โก   เกา   กำ   กะ    และผันอักษร   คือการผันเสียงวรรณยุกต์   เช่น   ขา   ข่า   ข้า

                ๒.๑.๗ได้ทราบว่ามีตัวสะกดใช้อย่างเช่นปัจจุบันคือ  กก  กด  กบ  (คำตาย)    กน  กม   กง  เกอย   เกอว
๒.๒  ด้านวรรณคดี
                มีการอธิบายวิธีในการแต่งคำประพันธ์ประเภทร้อยกรองต่างๆ  อาทิ   โคลง   กาพย์  ฉันท์   กลอน   และได้มีการยกตัวอย่างจากบทประพันธ์ของวรรณคดีในอดีตมาเป็นตัวอย่างประกอบด้วย

๓.เป็นแบบอย่างให้นักปราชญ์สมัยต่อมาเขียนแบบเรียนภาษาไทยขึ้น
          ไม่ว่าจะเป็นแบบเรียนประถม ก กา  และประถมมาลา  ซึ่งเป็นแบบเรียนที่มีการประพันธ์ขึ้นในสมัยรัตนโกสิทร์ตอนต้นนั้น   ก็ได้นำแบบเรียนจินดามณีมาเป็นแบบอย่างในการประพันธ์แบบเรียน  และใช้ในการเรียนมาจวบจนสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  
เหตุที่มีการยกเลิกแบบเรียนจินดามณี   ประถม ก  กา    และประถมมาลา  เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  (รัชการที่ ๕)  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระยาศรีสุนทรโวหาร  (น้อย  อาจารยางกูล)  ประพันธ์แบบเรียนหลวงขึ้น   เพื่อใช้ประกอบการเรียนในโรงเรียนหลวง    แต่เนื้อหาในแบบเรียนหลวง ก็ยังคงมีใจความคล้ายกับ  จินดามณี”     แต่อาจะมีการปรับแต่ง   เพิ่มเติมเนื้อหาให้เป็นไปตามยุคสมัย

๓.คุณค่าด้านวรรณศิลป์

๑.มีการเล่นคำ
๑.๑ การเล่นซ้ำคำ   คือคำว่า คิด
                 คิดนักหอดหักแล้ว                              ในใจ
คิดควบถึงใครใด                                                  ร่วมรู้
คิดนักคิดหิวไป                                                    ในมะ   โนแฮ
คิดบ่มีเจ้าชู้                                                            บ่เว้นพระวันยาม ฯ

การเล่นคำโดยใช้การสลับที่
                เนตร   คมสมลักษณ์เนื้อ                   นิล   เนตร
น้อง    จรวรวานเชฐ                                          เหนียว   น้อง
ส่อง   ศรห่อนถูกเภท                                        เรียม   ส่อง
มา   สบจบจวบห้อง                                          ต่อเท้าวัน   มา ฯ


๒.การเล่นสัมผัส

ฝนตกนกร้องร่ำ                                  ครวญคราง
 ครางครวญถึงนวนนาง                      โศกเศร้า             
เศร้าโศกร่ำแต่ปาง                                ไปจาก
จากไปเรียมไฉนเจ้า                              พี่เพี้ยงตรอมตาย   ฯ

สัมผัสสระ
                                คือ    กับ   ถือ                                  
สัมผัสอักษร
 บท   กับ   บาท   กับ   เบื้อง             ถือ    กับ   แถม
 ทำ    กับ    โทษ                                  เหล้น   กับ   หลาน
      อักษรจัดถัดเนื้อง                                        โดยดับ
เปนสารสืนสี่ฉบับ                                               บอกไว้
เขบ็จขบวรควรคำนับ                                          อุปเทศ
นรชนสนใจได้                                                    ชื่อเชื้อเมธา   ฯ

สัมผัสสระ
                                จัด    กับ   ถัด                                  ใจ  กับ   ได้
สัมผัสอักษร
                                โดย   กับ   ดับ                                  สาร    กับ   สี่
                                เขบ็จ    กับ    ขบวร                           ขบวร   กับ   ควร
                                ชน    กับ    สน                                  ชื่อ      กับ    เชื้อ

๓ .มีการบรรยาย    พรรณนาให้เห็นภาพชัดเจน

               นางขับขานเสียงแจ้ว                          พึงใจ
ตามเพลงกลอนกลใน                                        ภาพพร้อง
มโหรีบรรเลงไฉน                                             ซอพาทย์
ทับกระจับปี่ก้อง                                                เร่งเร้ารัญจวน   ฯ



 ที่มาของข้อมูล 
https://th.answers.yahoo.com/
http://tech-noppadon.blogspot.com/
https://www.gotoknow.org/posts/401028
http://www.poetthai.com/


หนังสือ วรรณคดีสมัยอยุธยา


วรรณคดีจินดามณี ประวัติผู้แต่งหนังสือจินดามณี          จินดามณี (มีความหมายว่า แก้วสารพัดนึก) เป็นแบบเรียนภาษาไทย มีเนื้...