ประวัติหนังสือจินดามณี
หนังสือเรียนของคนไทยที่ปรากฎว่ามีใช้ในสมัยก่อนเท่าที่ปรากฎหลักฐานก็จะมีเรื่อง
จินดามณี หรือ จินดามุณี อันแปลว่า แก้ววิเศษ แต่งโดยพระมหาราชครูกวีในสมัยสมเด็จ
พระนารายณ์มหาราช
ซึ่งหนังสือเรื่องจินดามณีนี้นับเป็นหนังสือเรียนเล่มแรกที่ใช้กันอยู่ในสมัยนั้น
เนื้อหาภายในเป็นประเภท ร่าย ฉันท์ และร้อยกรองประเภทต่างๆ
แบบแผนการเรียนในสมัยก่อนค่อนข้างยุ่งยาก
เนื่องจากจะเน้นหนักไปในทางด้านกวีโดยเฉพาะ
จึงมีผู้สันนิษฐานว่าอาจมีแบบเรียนเป็นคู่มือใช้อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ปรากฏหลักฐาน
หนังสือจินดามณีเป็นหนังสือที่มีมาแต่สมัยอยุธยา
แต่ชื่อของหนังสือก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็น "จินดามณี" หรือ
"จินดามุนี" กล่าวกันว่า
จินดามณีเป็นชื่อหนังสือเรื่องหนึ่งซึ่งมีอยู่ก่อน
ส่วนจินดามุนีเป็นชื่อของหนังสืออีกเรื่องหนึ่ง หรืออาจกลับกันก็ได้
แต่ชื่อที่น่าจะถูกต้องที่สุดคือชื่อ จินดามณี เพราะเป็นชื่อของแก้วสารพัตรนึกอย่างหนึ่ง
กล่าวกันว่าหากผู้ใดมีอยู่ในครอบครองนึกสิ่งใดจะได้สมหวังในสิ่งนั้น
ดังนั้นหนังสือเล่มนี้อาจจะสื่อความหมายในเชิงว่า
หากผู้ใดได้เรียนหนังสือเล่มนี้ก็จะรู้แตกฉานในอักษรศาสตร์ของไทยเสมือนได้มีแก้วสารพัดนึกอยู่ในมือ
หน้าต่อไป กรมศิลปากร จินดามณี เล่ม ๑-๒
บันทึกเรื่องจินดามณี และ จินดามณี ฉบับสมเด็จพรเจ้าบรมโกศ หน้า ๑๓๓.
จากหลักฐานต่างๆ พบว่าจินดามณีเล่ม๑ แต่งขึ้นในรัชกาลที่ ๓ โดยมีการอ้างถึงในหนังสือ ปฐม ก กา หัดอ่านใจความว่า "ถ้าใครใคร่รู้ ให้ดูสารา เพียรยลค้นหา จินดามะณี" ส่วนหนังสือจินดามณี เล่ม ๒ เป็นของกรมหลวงวงษาฯ แต่งขึ้นปลายรัชกาลที่ ๓ เนื้อหาอ้างถึงจินดามณีฉบับเก่าว่า "สสามไม้ม้วนไม้มลาย แถลงลักษณ์ธิบาย ไว้แจ้งในจินดาามณี" (๒) หนังสือจินดามณีนั้นมีด้วยกันสี่ประเภท ได้แก่ จินดามณีฉบับความแปลก จินดามณีฉบับความพ้อง จินดามณีฉบับพระนิพนธ์กรมหลวงวงษาธิราชสนิท และ จินดามณีฉบับหมอบรัดเลรวบรวม
จินดามณีฉบับความแปลก
มีสองเล่ม เก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ
การขึ้นต้นเหมือนกันทั้งสองฉบับแต่ที่ว่าเป็นฉบับความแปลกและมีความแตกต่างจากฉบับอื่นๆ
จินดามณีฉบับความพ้อง

มีอยู่ด้วยกันหลายเล่ม เหมือนกันบ้าง
แตกต่างกันบ้างแต่ไม่มาก หากจะจัดจำแนกแยกเป็นจำพวกจะได้ ๔
จำพวก ได้แก่ หน้าก่อน หน้าต่อไป กรมศิลปากร จินดามณี เล่ม ๑-๒
บันทึกเรื่องจินดามณี และ จินดามณี ฉบับสมเด็จพรเจ้าบรมโกศ หน้า ๑๓๙.
- ฉบับลายมือเขียน
เก่าที่สุด ลักษณะเป็นสมุดไทยดำ เส้นรง
- ฉบับนายมหาใจภักดิ์
มีอยู่ด้วยกัน ๒ เล่ม เป็นสมุดไทยดำหน้าต้นชุบเส้นทองเส้นหนึ่ง
ต่อไปเขียนด้วยเส้นรง มีชุบเส้นทองบ้างเป็นบางแห่ง ส่วนอีกเล่มหนึ่งนั้นจะเป็นเส้นรงตลอดเล่ม
- ฉบับพระยาธิเบศ
มีการขึ้นต้นด้วยร่ายที่คำแปลกแตกต่างจากเล่มอื่น
- ฉบับความสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส
มี ๒ เล่มสมุดไทยดำ
จินดามณีฉบับพระนิพนธ์กรมหลวงวงษาธิราชสนิท
เป็นหนังสือที่ต้นฉบับมีจบบริบูรณ์แต่เฉพาะที่พิมพ์รวมอยู่ในตอนท้ายหนังสือจินดามณี
ฉบับพิมพ์ของหมอสมิธ บางคอแหลม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๓
ได้คัดมาทำเป็นต้นฉบับลงพิมพ์ไว้ในเล่มนี้เป็นเล่มที่ ๒ ขึ้นต้นด้วยฉันท์วสันตดิลก
แล้วต่อไปแจกลูกรวมทั้งอักษรกล้ำในแม่ ก กา, กก, กง, กด, กน, กบ, กม และ เกอย
และผันอักษรกลางทุกตัวด้วยไม้เอก โท ตรี จัตวา(๕ เสียง) ผันอักษรสูงด้วยเอก โท (๓
เสียง) และอักษรต่ำด้วยเสียงเอก โท (๓ เสียง) รวมทั้งอักษรควบกล้ำทุกแม่
รวมทั้งอักษรต่ำที่มี ห และ อ นำ จินดามณีฉบับนี้
เลียนแบบมาจากจินดามณีฉบับความพ้องที่เป็นของเก่า
แต่ว่าได้มีการแก้ไขให้กระทัดรัดขึ้น อีกทั้งยังปรับปรุงให้อ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย
การแต่งจินดามณีเล่มนี้แต่งขึ้นเมื่อสมัยที่กรมหลวงวงษาธิราชสนิทยังดำรงยศเป็นกรมหมื่น
ทรงนิพนธ์จินดามณีเล่ม ๒ นี้ขึ้น จินดามณีฉบับนี้เป็นฉบับที่หมอสมิธได้นำไปพิมพ์
และบางตอนของหนังสือก็ได้มีการคัดลอกไปลงหนังสือเล่มอื่นนั่นคือหนังสือของหมอบรัดเลโดยตอนที่นำไปเป็นตอนที่อธิบายถึงวิธีแต่งโคลง
กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทรงเป็นกวีที่เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงพระองค์หนึ่ง
รวมทั้งได้ทรงแต่งหนังสือไว้หลายเรื่อง
ทรงเป็นลูกศิษย์ของสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส หน้าก่อน หน้าต่อไป กรมศิลปากร จินดามณี เล่ม ๑-๒ บันทึกเรื่องจินดามณี และ จินดามณี
ฉบับสมเด็จพรเจ้าบรมโกศ หน้า ๑๔๘-๑๕๐.
จินดามณีฉบับหมอบรัดเล
เป็นฉบับที่มีการพิมพ์รวบรวมเรื่องไว้หลายๆเรื่องในเล่มเดียวกัน
อันได้แก่ ประถม ก กา แจกลูก จินดามณี ประถมมาลา และ ปทานุกรม
และยังมีการแทรกเรื่องและคำอธิบายต่างๆเพิ่มเติมลงไป เช่น คำควบกล้ำ
การแบ่งอักษรออกเป็น ๕ จำพวก คำราชาศัพท์ ศัพท์กำพูชา คำชวา และโคลงบทต่างๆ
ในจารึกวัดพระเชตุพน และต่อมาโรงพิมพ์พานิชศุภผลเป็นผู้พิมพ์ออกจำหน่าย
จินดามณีนั้นเป็นหนังสือแบบเรียนภาษาไทยที่ใช้กันในสมัยอยุธยา
โดยในสมัยนั้นยังไม่มีการพิมพ์เกิดขึ้น ดังนั้นผู้ที่ใคร่ศึกษาหาวิชาใส่ตัวจำเป็นต้องคัดลอกไว้
โดยสมุดที่ใช้คัดลอกนั้นก็จะเป็นสมุดที่ทำจากส่วนของพืชนำมาผ่านขั้นตอนทำเป็นสมุดใช้กัน
หรือที่เรียกว่าสมุดไทย การคัดลอกนั้นก็จะคัดลอกจากต้นฉบับจากนั้นก็ตกทอดต่อๆ
กันมา เมื่อนานเข้าตัวอักษรจึงเริ่มลางเลือน อีกทั้งหนังสือก็เกิดชำรุดเสียหาย
ผู้ที่เป็นเจ้าของหนังสือ บางครั้งก็อาจเขียนเรื่องอื่นเพิ่มเติมลงไปตามแต่ใจ
หากสมุดขาด ก็อาจจะมีการประติดประต่อผิดๆ ถูกๆ ไปตามเรื่อง
ดังนั้นความแตกต่างของหนังสือจึงมีมากบ้างน้อยบ้าง อันเป็นธรรมดาของหนังสือ
ที่ใช้เป็นแบบเรียน อันจะนับรวมถึงหนังสืออื่นๆ ที่ใช้กันเป็นประจำ เช่น
หนังสือสวมมนต์ และตำรา ภาษาบาลีต่างๆ หนังสือจินดามณีนั้นใช้เป็นแบบเรียนมานาน
เลิกใช้เมื่อพระยาศรีสุนทรโวหาร(น้อย อาจารยางกูร)
ได้แต่งหนังสือมูลบทบรรพกิจเป็นแบบเรียนหลวงสมัยรัชกาลที่ ๕ ขึ้น หน้าก่อน กรมศิลปากร จินดามณี เล่ม ๑-๒ บันทึกเรื่องจินดามณี และ จินดามณี
ฉบับสมเด็จพรเจ้าบรมโกศ หน้า ๑๔๘-๑๕๐.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น