
วรรณคดีจินดามณี
ประวัติผู้แต่งหนังสือจินดามณี
จินดามณี (มีความหมายว่า แก้วสารพัดนึก)
เป็นแบบเรียนภาษาไทย มีเนื้อหาครอบคลุมเรื่อง การใช้สระ พยัญชนะ วรรณยุกต์
การแจกลูก การผันอักษร อักษรศัพท์ อักษรเลข การสะกดการันต์ การแต่งคำประพันธ์
ชนิดต่างๆ และกลบท ปรากฏกลบท อยู่ ๖๐ ชนิด มีทั้งจินดามณี
แต่งขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง โดยพระโหราธิบดี ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
และยังเป็นแบบเรียนเล่มแรกของไทยด้วย และจากการที่จินดามณีของพระโหราธิบดี
เป็นแบบเรียนไทยมาก่อนจนเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของแบบเรียนไทย
ทำให้หนังสือแบบเรียนไทยในยุคต่อมาหลายเล่มใช้ชื่อตามว่า "จินดามณี"
เช่นเดียวกัน เช่น จินดามณีฉบับความแปลก จินดามณีครั้งแผ่นดินพระเจ้าบรมโกศ
จินดามณีฉบับกรมหลวงวงษาธิราชสนิท จินดามณีฉบับพิมพ์ของหมอสมิท
และจินดามณีฉบับพิมพ์ของหมอบรัดเลย์
พระโหราธิบดี นักกวีชาวพิจิตร
เดิมอยู่สุโขทัย ผู้เป็นบิดาของศรีปราชญ์ทั้งเป็นโหรที่ทำนายทายทักได้แม่นยำนัก
รับรัชการตั้งแต่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
หนังสือจินดามณีนั้นมีหลายสำนวน
จึงเป็นการยากที่จะระบุว่าผู้ใดเป็นผู้แต่งฉบับไหน แต่ในฉบับความพ้องนั้นส่วนใหญ่เป็นหนังสือจินดามณีที่พระโหราธิบดีแต่งถวายสมเด็จพระนารายณ์
เมื่อครั้งอยู่สุโขทัย โดยแต่งให้เนื่องจากทรงได้เป็นเจ้าเมืองลพบุรี
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอธิบายไว้ในบันทึกสมาคม วรรณคดี
ปีที ๑ เล่ม ๕ พ.ศ. ๒๔๓๕ ว่า สมเด็จพระนารายณ์ทรงดำรัสสั่งให้พระโหราแต่งหนังสือ
จินดามณีและหนังสือพระราชพงศาวดาร ด้วยว่าพวกบาทหลวงฝรั่งเศษเมื่อแรกเข้ามาสอน
ศาสนาคริสต์ในพระนครศรีอยุธยานั้น ได้มาตั้งโรงเรียนสอนหนังสือให้แก่เด็กไทยด้วย
ดังนั้นพระนารายณ์ทรงเห็นว่าถ้าฝ่ายไทยไม่เอาเป็นธุระจัดบำรุงการศึกษาเล่าเรียนให้รุ่งเรือง
ก็จะเสียเปรียบฝรั่งเศส
คาดว่าพระโหรานั้นเป็นปราชญ์ที่มีชื่อเสียงอีกทั้งเชี่ยวชาญ
พระองค์จึงมีรับสั่งให้พระโหราแต่งตำราถวาย ส่วนหนังสือพระราชพงศาวดารนั้น
จะแต่งเป็นหนังสือเรียนหรือแต่งสำหรับให้เป็นความรู้แก่ทูตต่างประเทศที่เข้ามาในครั้งนั้น
ก็อาจเป็นได้ การแต่งหนังสือจินดามณีนั้นจะเห็นว่าต้นเรื่องจะขึ้นต้นด้วยร่าย
รวบรวมศัพท์ที่มีเสียงพ้องกัน แต่เขียนไม่เหมือนกัน เช่น บาตร บาท บาศ เป็นต้น
จากนั้น จากนั้นแต่งเป็นกลอนกาพย์ ก่อนจบมีโคลงรหัสอักษร เช่น ไทยนับ ๓ ไทยนับ ๕
ไทยหลง เป็นต้น ซึ่งคงเป็นที่นิยมกันแพร่หลายในเวลานั้น
ทำนองการแต่ง
แต่งเป็นร้อยแก้ว
มีตัวอย่างเป็นคำประพันธ์ชนิดต่างๆ เช่น โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ประกอบเนื้อหา
วัตถุประสงค์ในการแต่ง
ด้วยเกรงว่าพวกบาทหลวงนักบวชจะพาคนไทยไปเข้ารีตเป็นคริสต์จำนวนมาก จึงโปรดฯ
ให้มีการแต่งหนังสือภาษาไทยขึ้นเพื่อสั่งสอนให้เด็กไทยรักชาติและศาสนาของตนเอง
ไม่ไปเข้ารีต โดยจะสั่งสอนสอดแทรกไว้ในหนังสือ
สาระสำคัญ
แต่งเป็นร้อยแก้ว
มีตัวอย่างเป็นคำประพันธ์ชนิดต่างๆ เช่น โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ประกอบเนื้อหา
ขึ้นต้นเป็นบทสรรเสริญ
แล้วกล่าวถึงคำศัพท์ต่างๆ ที่มีที่มามาจากภาษาสันสกฤต และคำที่มีเสียงคล้ายกัน
การใช้ ศ ษ ส การใช้ไม้ม้วนซึ่งมีทั้งหมด ๒๐ คำ และไม้มลายอีก ๘๐ คำ
มีการกล่าวถึงอักษรสามหมู่ มาตราตัวสะกด การใช้เครื่องหมาย จบด้วยการแต่งกาพย์ โคลง ฉันท์ และกลบทต่างๆ
พร้อมด้วยยกตัวอย่างจากวรรณคดีเรื่องอื่นและที่แต่งเพิ่มเติมเข้ามาอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น